ถังเก็บน้ำดับเพลิงเลือกใช้งานผิดประเภท มีปัญหาแน่!

Last updated: 20 พ.ย. 2568  |  22 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสสำหรับดับเพลิงเลือกผิด

ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อเลือกถังเก็บน้ำดับเพลิงผิดประเภท — คู่มือที่โรงงานต้องรู้ก่อนติดตั้ง

การเลือก ถังเก็บน้ำดับเพลิง เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการสร้างระบบป้องกันอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรม หลายองค์กรเข้าใจผิดว่า “ถังน้ำอะไรก็ใช้ดับเพลิงได้เหมือนกัน” แต่ในความจริงแล้ว ระบบ Fire Protection ต้องใช้ถังที่ ออกแบบเฉพาะ, ทนแรงดัน, โครงสร้างแข็งแรง, และ รองรับการใช้งานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง

การเลือกถังผิดประเภทไม่ใช่แค่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง แต่ยังเสี่ยงต่องานตรวจ, ความปลอดภัย, และอาจทำให้ระบบดับเพลิงใช้งานไม่ได้จริงในเวลาฉุกเฉิน

บทความนี้จะอธิบาย ปัญหาที่พบบ่อยที่สุด, ความเสี่ยงที่มักเกิดขึ้นในโรงงาน, รวมถึงเหตุผลว่าทำไมการเลือก ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสสำหรับดับเพลิง จึงเป็นมาตรฐานใหม่ที่โรงงานยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ

ปัญหาใหญ่ที่โรงงานเจอบ่อย เมื่อเลือกถังเก็บน้ำดับเพลิงผิดประเภท

  1. ถังไม่รองรับแรงดัน (Pressure Rating ไม่ถึงมาตรฐาน)
    ระบบดับเพลิงต้องใช้แรงดันสูง โดยเฉพาะเมื่อต้องป้อนน้ำเข้าระบบ Fire Pump อย่างต่อเนื่อง ถ้าถังไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับงานดับเพลิง เช่นถังพลาสติกหรือถังเหล็กบาง จะทำให้เกิดปัญหา:

    - ผนังถังบวมและเกิดรอยร้าว
    - น้ำไหลย้อนกลับ เพราะแรงดันไม่คงที่
    - ปั๊มทำงานหนักเกินไปจนเสียหาย
    - ไม่สามารถจ่ายอัตราการไหล (Flow Rate) ตามที่กฎหมายกำหนด

    นี่คือปัญหาที่เจอมากที่สุดในโรงงานที่เลือกถังราคาถูกหรือถังทั่วไปมาใช้แทนถังดับเพลิง

  2. การเกิดสนิมและตะกอนในระบบ (Corrosion Problem)
    ถังเหล็กหรือถังโลหะที่ไม่ได้เคลือบกันสนิม จะเกิดการกัดกร่อนเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องเก็บน้ำตลอดเวลา
    เมื่อเกิดสนิมแล้วจะมีผลดังนี้:

    - ผิวในถังลอก ทำให้น้ำมีตะกอน
    - ตะกอนวิ่งเข้าไปอุดตันระบบท่อดับเพลิงและหัวจ่าย
    - Fire Pump เสียหายจากตะกอนขนาดเล็ก
    - อายุการใช้งานของระบบสั้นลงถึง 40–60%

    - ด้วยเหตุนี้ โรงงานจึงนิยมเปลี่ยนมาใช้ ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสสำหรับดับเพลิง เพราะไม่มีปัญหาสนิม 100%

     

     

  3. ถังไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจของนิคมหรือโยธา
    หลายโรงงานมักเจอปัญหา “ถังไม่ผ่านตรวจ” เพราะเลือกถังที่ไม่ได้ตามมาตรฐาน เช่น:

    - ความจุถังไม่ถึงตามกฎหมาย
    - ไม่มี Manhole สำหรับตรวจสภาพ
    - ไม่มีข้อต่อสแตนเลสหรือวัสดุเกรดงานดับเพลิง
    - ไม่มีฐานรากรองรับน้ำหนัก
    - ระดับท่อเข้า–ออกไม่ตรงข้อกำหนด

    ผลลัพธ์คือ ต้องรื้อถังและติดตั้งใหม่ ทำให้เกิดต้นทุนแฝงจำนวนมาก

  4. ถังทั่วไปไม่เหมาะกับการเก็บน้ำเพื่อดับเพลิง
    หลายโรงงานเลือกใช้ถังน้ำธรรมดา เช่นถังสำหรับเก็บน้ำใช้ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับงาน Fire Fighting จำเป็นต้องใช้ถังที่มีคุณสมบัติดังนี้:

    - ความคงตัวของระดับน้ำสูง
    - รองรับแรงสั่นสะเทือนจากปั๊มดับเพลิง
    - โครงสร้างไม่ยุบตัวแม้เก็บน้ำเต็ม 100%
    - น้ำต้องพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง

    - ถังทั่วไปไม่สามารถรองรับปัจจัยเหล่านี้ได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถังรั่ว แตก หรือเสื่อมเร็วกว่าปกติ

  5. เลือกวัสดุไฟเบอร์กลาสผิดเกรด
    หลายคนเข้าใจว่าไฟเบอร์กลาสคือวัสดุเดียวกันทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วมีหลายเกรด เช่น:

    - ไฟเบอร์กลาสเกรดทั่วไป (ใช้กับงานเก็บน้ำธรรมดา)
    - ไฟเบอร์กลาสเกรดแรงดัน (เหมาะกับงานดับเพลิง)
    - ไฟเบอร์กลาสเกรดทนสารเคมี

    ถ้าเลือกผิดเกรด อาจเกิดปัญหา:

    - ผนังถังโก่ง
    - รอยรั่วตามรอยต่อ
    - รับแรงดัน Fire Pump ไม่ไหว
    - อายุการใช้งานสั้นลง 50%

    การเลือกถังไฟเบอร์กลาสเฉพาะงานดับเพลิงเป็นเรื่องสำคัญมาก

  6. ติดตั้งผิดตำแหน่ง ทำให้ถังเสียหายเร็ว
    หลายโรงงานติดตั้งถังน้ำดับเพลิงผิดตำแหน่ง เช่น:

    - วางบนพื้นไม่เรียบ
    - ไม่มีฐานคอนกรีตรองรับ
    - อยู่ใกล้ความร้อนหรือแรงสั่นสะเทือน
    - ติดตั้งชิดกำแพงจนตรวจเช็กไม่ได้
    - ติดตั้งในจุดที่ท่อมีความลาดเอียงผิดมุม

    ผลที่เกิดขึ้นคือถังบิดตัว–รั่วเร็ว หรือปั๊มดับเพลิงไม่สามารถดูดน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ

  7. ไม่มีการบริการหลังการขายและดูแลถังเป็นประจำ
    ระบบดับเพลิงควรมีการตรวจสภาพถังอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง แต่หลายโรงงานกลับ:

    - ไม่มีผู้ตรวจเช็กสภาพถัง
    - ไม่ตรวจ Hydrotest
    - ไม่ดูสภาพข้อต่อและท่อเข้า–ออก
    - ไม่ตรวจระดับน้ำตามรอบ

    - เมื่อถึงเวลาต้องใช้งานจริง ระบบไม่พร้อมใช้งานทันที เพราะถังเสียหายโดยไม่รู้ตัว

    ประเทศที่มีมาตรฐานโรงงานเข้มงวด เช่น ญี่ปุ่น–เกาหลี จึงเน้นถังไฟเบอร์กลาสที่มี บริการหลังการติดตั้งครบวงจร เป็นหลัก

 

ผลกระทบของการเลือกถังผิดประเภท — ค่าเสียหายสูงมากกว่าที่คิด

เสียเวลาและงบประมาณ
การรื้อถัง–ติดตั้งใหม่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการลงทุนตั้งแต่แรกหลายเท่า

ไม่ผ่านตรวจโรงงาน
ถ้าระบบดับเพลิงไม่ครบถ้วนอาจโดนสั่งแก้ไขหรือหยุดการผลิตชั่วคราว

ความปลอดภัยของพนักงานลดลง
ถังที่ไม่มีความมั่นคงทำให้ระบบดับเพลิงไม่พร้อมใช้งาน 24 ชั่วโมง

เสี่ยงต่อความเสียหายของโรงงาน
ไฟไหม้เพียงครั้งเดียวสร้างความเสียหายหลายล้านบาท หากระบบดับเพลิงไม่สมบูรณ์

 

ทำไมโรงงานจึงเลือกใช้ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสสำหรับดับเพลิงมากขึ้น?

  1. ปลอดสนิมตลอดอายุการใช้งาน
    แตกต่างจากถังเหล็กที่ต้องคอยซ่อมบำรุง

  2. ทนแรงดันสูง
    เหมาะสำหรับงาน Firefighting 100%

  3. น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
    ลดค่าแรงและเวลาในการติดตั้ง

  4. อายุการใช้งานยาว 15–25 ปี
    คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

  5. ปรับแต่งได้ตามแบบงานแต่ละโรงงาน
    เพราะผลิตด้วยแม่พิมพ์ไฟเบอร์กลาส

 

 

สรุป — เลือกถังดับเพลิงผิด เสี่ยงทั้งระบบและธุรกิจ
การติดตั้งระบบดับเพลิงไม่ใช่แค่ทำให้ผ่านตรวจ แต่คือความปลอดภัยของโรงงานทั้งหมด
ถังเก็บน้ำดับเพลิงที่ถูกต้อง ควรเลือกให้เหมาะกับ:

- ประเภทโรงงาน
- มาตรฐานนิคมหรือกฎหมาย
- ระบบ Fire Pump
สภาพพื้นที่และการติดตั้ง
การเลือกถังผิดตั้งแต่แรก จะทำให้เกิดความเสียหายที่มากขึ้นกว่าที่คิดหลายเท่า ดังนั้นโรงงานจึงควรเลือกใช้ ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสสำหรับดับเพลิง ที่ออกแบบเฉพาะงาน พร้อมบริการติดตั้งและดูแลครบวงจร เพื่อให้ระบบปลอดภัยและพร้อมใช้งานจริง 100%


 


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้